ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. ลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู เยี่ยมชมการจัดบริการของคลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่นและคลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่นในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว พบผู้ป่วยพึงพอใจ ได้รับบริการรวดเร็วมีคุณภาพ พร้อมเชิญชวนคลินิกเอกชนเข้าร่วมให้บริการแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองให้มากขึ้น


ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ทพ.กวี วีระเศรษฐกุล ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 8 อุดรธานี ลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของคลินิกกายภาพบำบัดเติมบุญ และ คลินิกโนนสังทันตกรรม ซึ่งเป็นหน่วยบริการนวัตกรรม ที่เข้าร่วมให้บริการผู้มีสิทธิบัตรทอง ตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า จ.หนองบัวลำภู เป็นพื้นที่นำร่องโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เฟสที่ 2 ซึ่งถ้าถ้าดูเรื่องจำนวนคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการก็ยังถือว่ามีจำนวนไม่มากนัก แต่ถ้าดูเรื่องคุณภาพของหน่วยบริการแล้วถือว่าดีมาก ยกตัวอย่างเช่น คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น ปัจจุบัน สปสช. สนับสนุนค่าใช้จ่ายใน 4 กลุ่มอาการ อาทิ เส้นเลือดแตกในสมอง เมื่อสิ้นสุดการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว หากสามารถเข้ารับการฟื้นฟูได้รวดเร็วภายใน 6 เดือน จะทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวกลับมามีสมรรถภาพใกล้เคียงปกติ ซึ่งแต่เดิมนักกายภาพบำบัดของภาครัฐก็ดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ แต่ด้วยจำนวนคนไข้ที่มีมากก็อาจทำให้การดูแลทำได้ไม่ทั่วถึง แต่เมื่อมีภาคเอกชนเช้ามาช่วย ก็ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจน มีนักกายภาพบำบัดลงพื้นที่ไปดูแลถึงที่บ้าน มีการให้ความรู้แก่ญาติในการทำกายภาพบำบัด ทำให้ผู้ป่วยที่นอนติดเตียงสามารถฟื้นตัวกลับมาเดินได้

หรือในส่วนของคลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น ก็เป็นอีกบริการที่ประชาชนมีความพึงพอใจมากที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมาหากจะเข้ารับบริการของภาครัฐอาจจะต้องรอคิวนาน แต่เมื่อมีคลินิกทันตกรรมภาคเอกชนเข้ามาร่วมให้บริการ ก็ทำให้สามารถไปรับบริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการนี้มามีประชาชนเข้ารับบริการในคลินิกทันตกรรมแล้วประมาณ 10,000 ราย รวม 15,000 ครั้ง ประชาชนมีความพึงพอใจและอยากให้ขยายหน่วยบริการทันตกรรมให้มากยิ่งกว่านี้ เป็นต้น

"ทรัพยากรด้านสาธารณสุขมี 2 ส่วน คือภาครัฐ และภาคเอกชน ในส่วนของภาครัฐกำลังทำงานอย่างเต็มที่โดยมี สปสช. ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ปัญหาคือประชาชนบางส่วนยังเข้าไม่ถึงหรือมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางมารับบริการ แต่เมื่อมีหน่วยบริการภาคเอกชนเข้ามาช่วย ก็เป็นการเพิ่มจำนวนหน่วยบริการให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวกมากขึ้น การลงพื้นที่ในครั้งนี้เราต้องการรับฟังปัญหาอุปสรรคของคลินิกเอกชนที่เข้ามาร่วมโครงการ แล้วนำข้อมูลที่ได้กลับไปแก้ไขเพื่ออำนวยความสะดวกให้คลินิกเอกชนเข้ามาร่วมให้บริการกับ สปสช. ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และขอเชิญชวนคลินิกเอกชนต่างๆ ที่สนใจ สมัครเข้ามาเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. โดยสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วน 1330 ได้ตลอด 24 ชม." ทพ.อรรถพร กล่าว

ด้าน กภ.ปรมินทร์ อุ่นทะยา เจ้าของคลินิกกายภาพบำบัดเติมบุญ กล่าวว่า ปกติผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูมีจำนวนมากอยู่แล้ว การได้เข้ามาร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. จึงได้ช่วยแบ่งเบาภาระงานของโรงพยาบาล ซึ่งปกติตนจะออกเยี่ยมบ้านตั้งแต่ 10.00 น.- 17.00 น. แต่โดยรวมแล้วก็ยังให้บริการได้ไม่ทันต่อความต้องการเพราะคนไข้มีจำนวนเยอะมากจริงๆ เพราะผู้ป่วย 1 คนไม่ได้ทำครั้งเดียวจบแต่ต้องเข้าไปดูแล 10-20 ครั้งกว่าจะดีขึ้น ดังนั้นจึงยังมีผู้ป่วยบางส่วนที่ยังดูแลได้ไม่หมด โดยตนจะเลือกเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยที่ยากจน ขาดแคลนเงินสำหรับจ้างรถเดินทางมาโรงพยาบาล กลุ่มที่ญาติไม่มีเวลาดูแล และกลุ่มที่อาการค่อนข้างหนัก นอนติดเตียงหรือเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้

"โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เหมือนได้ทำบุญ ขณะที่ทาง สปสช. ก็สนับสนุนอย่างดี มีอัตราการจ่ายชดเชยค่าบริการที่พอรับได้ จากตอนแรกที่ตนคิดว่าจะทำเป็น part time แต่เมื่อได้ทำจริงๆแล้วรู้สึกชอบ จึงลาออกจากงานประจำมาทำเต็มเวลา" กภ.ปรมินทร์ กล่าว

พญ.วสุธา ศรีวรรณา แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลหนองบัวลำภู กล่าวว่า ทีมโรงพยาบาลจะดูแลคนไข้หลากหลายโรค แต่ด้วยปัญหาทั้งด้านจำนวนบุคลากร ปัญหาผู้ป่วยไม่มีญาติดูแล หรือไม่มีเงินพามารับการฟื้นฟูที่โรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยบางส่วนไม่ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ แต่เมื่อ สปสช. มีโครงการนี้ทำให้โรงพยาบาลสามารถกระจายผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรคให้ทางคลินิกกายภาพบำบัดช่วยดูแลได้ ผู้ป่วยก็ได้เข้าถึงบริการมากขึ้น และช่วยแบ่งเบาภาระงานของโรงพยาบาลลงได้ประมาณ 20-30% ซึ่งในอนาคตก็อยากให้มีการขยายจำนวนคลินิกที่เข้าร่วมโครงการให้มากขึ้น

นายณรงค์ศักดิ์ ดีมัย อายุ 39 ปี หนึ่งในผู้ป่วยเส้นเลือดสมองที่รับบริการจากคลินิกกายภาพบำบัดเติมบุญ กล่าวว่า ตนมีอาการเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อเดือน ธ.ค. 2566 ทำให้ร่างกายซีกขวาขยับไม่ได้ เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ไปรับบริการกายภาพบำบัดทั้งที่โรงพยาบาลและที่คลินิกเพราะอยากกลับมาเป็นปกติเร็วๆ ปัจจุบันทำกายภาพบำบัดมา 3-4 เดือนแล้ว นักกายภาพบำบัดให้การดูแลเป็นอย่างดี มาดูแลถึงที่บ้าน ทำให้จากที่ต้องนอนติดเตียงก็กลับมาเดินได้ ขยับแขนขาได้ใกล้เคียงปกติแล้ว

"โครงการนี้ดีมาก ถ้าไปโรงพยาบาลจะมีความแออัด ต้องรอคิวนาน แต่เมื่อรับบริการกับทางคลินิกก็มีนักกายภาพไปช่วยฝึกช่วยดูแลให้ถึงที่บ้าน" นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

เช่นเดียวกับนางจำรัส พรหมทองดี อายุ 68 ปี ผู้ป่วยเส้นเลือดสมองอีกรายหนึ่งที่รับบริการจากคลินิกกายภาพบำบัดเติมบุญ กล่าวว่า ตนมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบประมาณเดือน ต.ค. 2566 ญาติพาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วก็มีนักกายภาพจากคลินิกเข้าไปช่วยดูแลให้ถึงที่บ้านเลย จนกระทั่งทุกวันนี้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ 80% แล้ว

ด้าน ทพ.นฤชิต ทองรุ่งเรืองชัย เจ้าของคลินิกโนนสังทันตกรรม กล่าวว่า เริ่มรู้จักโครงการนี้ตั้งแต่เฟส 1 จึงเริ่มสนใจศึกษารายละเอียดและสมัครเข้าร่วมโครงการในเฟสที่ 2 ซึ่งปัจจุบันประชาชนในพื้นที่ยังไม่ทราบเกี่ยวกับโครงการนี้มากนัก จึงต้องอาศัยการประชาสัมพันธ์กับคนไข้แบบปากต่อปาก เช่น เวลามีคนไข้มาจัดฟันก็จะแจ้งให้ทราบว่ามีสิทธิตามโครงการนี้และแนะนำให้ใช้สิทธิ เช่น ขูดหินปูน เป็นต้น อย่างไรก็ดี คาดว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อคนไข้ใช้สิทธิได้จริงก็จะแนะนำญาติๆให้มารับบริการต่อๆ กัน 

"การเข้าร่วมโครงการกับ สปสช. คิดว่าประโยชน์ที่คลินิกจะได้รับคือเป็นที่รู้จักของประชาชนมากขึ้น มีจำนวนผู้รับบริการมากขึ้น ส่วนการดูแลเราจะพูดคุยกับคนไข้อยู่แล้วว่าจะมีการตรวจแล้ววางแผนการรักษา ถ้าเป็นการรักษาขั้นพื้นฐานเราก็ให้บริการได้เลย แต่ถ้าเป็นการรักษาที่ยุ่งยากซับซ้อนก็จะแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาล เป็นต้น โรงพยาบาลก็จะได้ลดความแออัด คนไข้ก็มีความสะดวก มีช่องทางรับบริการที่หลากหลายมากขึ้น อยากฝากถึงเพื่อนๆทันตแพทย์ว่าเวลาทำจริงๆ ตอนสมัครอาจมีขั้นตอนหลายขั้นตอน แต่ถ้าผ่านขั้นตอนการสมัครแล้ว กระบวนการเบิกจ่ายต่างๆก็เป็นไปตามที่ สปสช. สัญญาไว้ และการใช้งานโปรแกรมต่างๆก็ไม่ยาก ถ้าเทียบประโยชน์ที่ได้เมื่อเทียบกับการลงทุนแล้วถือว่าคุ้มค่า ก็อยากเชิญชวนให้มาร่วมโครงการนี้กันเยอะๆ จะเป็นประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย" ทพ.นฤชิต กล่าว

ดูรายชื่อหน่วยบริการเอกชนที่เข้าร่วมได้ที่ https://www.nhso.go.th/page/Innovative-services-pilot-provinces