วุฒิสภา รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีมติเห็นชอบในการผ่าน “ร่างกฎหมายเปิดโปงฝูงชนและอาชญากร” เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2567 เพื่อป้องกันการปกปิดตัวตนของผู้คน ที่จะนำไปสู่เหตุอาชญากรรม ด้วยคะแนน 30 (สว.จากพรรครีพับลิกัน) ต่อ 15 (สว.พรรคเดโมแครต)
สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ คือการ “ไม่อนุญาต” ให้ประชาชนสวมหน้ากาก
หมวกคลุมศีรษะ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปกปิดตัวตนของผู้สวมใส่ในที่สาธารณะอีกต่อไป ย้อนกลับไปเหมือนก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งหมายรวมถึง “หน้ากากอนามัย” ด้วย
พร้อมกันนี้ยังให้ยกเลิกกฎหมายที่ “อนุญาต” ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะได้ ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพและการป้องกันโรค ซึ่งออกมาในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
สำหรับเป้าหมายในการเสนอร่างกฎหมายของ สว. พรรครีพับลิกันฉบับนี้ เป็นไปเพื่อเพิ่มบทลงโทษทางอาญาในกรณีผู้ที่สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะก่ออาชญากรรม ซึ่งนัยหนึ่งจะเป็นการตอบโต้กลุ่มผู้ประท้วงที่กำลังเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จากกรณีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล กับฮามาส
"ถึงเวลาแล้วที่ความบ้าคลั่งนี้ ... อย่างน้อยก็ควรลดน้อยลง ถ้าไม่สามารถหยุดได้" บัค นิวตัน
(Buck Newton) สว.พรรครีพับลิกัน รัฐนอร์ทแคโรไลนา กล่าวในวันผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว
แม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับการยกเลิกข้อยกเว้นการสวมหน้ากากในยุคโรคระบาด แต่ บัค ปัดตกสิ่งนี้พร้อมให้เหตุผลที่เขาคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่จะใช้กฎหมายนี้อย่างมีสามัญสำนึก โดยระบุว่า “เราไม่เคยเห็นคุณยายโดนจับในห้างวอลล์มาร์ต ก่อนช่วงการระบาดของโควิดนะ”
หากแต่ฟากตรงข้าม สว. จากพรรคเดโมแครต ก็ได้ตอบโต้เหตุผลดังกล่าวด้วยว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่จะผลักภาระให้ผู้บังคับใช้กฎหมาย ในการใช้ดุลพินิจตัดสินใจเอาเอง
"นั่นไม่ใช่วิธีที่กฎหมายอาญาควรจะเป็น มันต้องเป็นใช่ก็ใช่ หรือไม่ใช่ก็ไม่ใช่" นาตาชา มาร์คัส (Natasha marcus) สว. พรรคเดโมแครต รัฐนอร์ทแคโรไลนา ค้าน และอธิบายต่อไปว่า “ชัดเจนว่าพวกเขากำลังโยนเนื้อสดๆ (เอาอกเอาใจ) ให้กับกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีน ต่อต้านวิทยาศาสตร์ ต่อต้านการสวมหน้ากากอนามัยด้วยร่างกฎหมายนี้ ฉันคิดว่าสาเหตุของร่างกฎหมายนี้มาจาก การประท้วงของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย วิทยาเขตต่างๆ ทั่วรัฐของเรา แต่ความจริงแล้วถ้าพวกเขาจัดการกับปัญหาการประท้วงได้ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องห้ามการสวมหน้ากากอนามัยของพวกเราทุกคน”
อย่างไรก็ดี เดสติน ฮอลล์ (Destin Hall) ประธานคณะกรรมาธิการข้อบังคับวุฒิสภา บอกว่าร่างกฎหมายเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย น่าจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการหลายชุดก่อนที่จะเข้าสู่การลงคะแนนเสียงในสภา ซึ่งอาจใช้เวลาหนึ่งหรือสองสัปดาห์
ทว่า เรื่องนี้ได้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงคัดค้านอย่างมากจากนักศึกษามหาวิทยาลัย พร้อมทั้งต้องการให้มีข้อยกเว้นการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ สำหรับผู้ที่รู้สึกว่ามีความเสี่ยงทางสุขภาพจากโรคหากไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย
สเตซี่ สแต็กส์ (Stacy Staggs) คุณแม่วัย 47 ปี ที่ลูกสาวฝาแฝดวัย 10 ขวบของเธอมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และหนึ่งในฝาแฝดเคยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นเวลา 88 วันหลังการคลอด ทำให้เป็นโรคปอดเรื้อรัง โดยเธอและลูกสาวทั้ง 2 คนจะสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกไปที่สาธารณะ เผยว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของบุคคล จะกลายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย”
นอกจากนี้ สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกันรัฐนอร์ทแคโลไรนา ก็ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยช่วงหนึ่งคำแถลงระบุว่า "เมื่อเราพิจารณาถึงพฤติกรรมที่ฝ่ายนิติบัญญัติชี้ให้เห็นเพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ การบุกรุก การทำร้ายเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เป้าหมายจริงๆ ของร่างกฎหมายนี้คืออะไร?"
ก่อนที่ฟากฝั่งของผู้เสนอกฎหมายจะตอบกลับสหภาพฯ ว่า นี่เป็นการตอบสนองที่จำเป็นต่อการชุมนุม ที่ลุกลามไปสู่การปะทะและจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมไปถึงภายในมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา แชเปิลฮิลล์ ที่การเดินขบวนและการปักหลักประท้วงเกิดขึ้นทั่ววิทยาเขตของมหาวิทยาลัย นับตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของฮามาส ในเดือน ต.ค. 2566 ซึ่งแม้การประท้วงในหลายวิทยาเขตจะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย แต่มีบางครั้งที่เกิดความรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับตำรวจ โดยผู้ประท้วงบางคนสวมใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายเปิดโปงกลุ่มฝูงชนและอาชญากร ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับรัฐนอร์ทแคโลไรนา เพราะก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการออก “กฎหมายเปิดโปงกลุ่มฝูงชนและอาชญากร” มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953) โดยในครั้งนั้นเป็นการกำหนดให้บุคคลตั้งแต่อายุ 16 ปีบริบูรณ์ ห้ามสวมหน้ากาก หรือหมวกคลุมศีรษะในที่สาธารณะ เช่น ทางเดินสาธารณะ ถนน ซอย และบ้านของบุคคลอื่นภายในรัฐ หรือแม้แต่ที่ในการประชุมด้วยก็ตาม ยกเว้นแต่มีการออกหนังสืออนุญาตล่วงหน้า
แนวคิดสำคัญของกฎหมายในตอนนั้น คือเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนภายในรัฐ เข้าร่วมการประท้วง หรือการก่ออาชญากรรม เนื่องจากการระบุตัวตนของบุคคลในขณะนั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการห้ามไม่ให้ประชาชนภายในรัฐปกปิดตัวตน จะทำให้เจ้าหน้าที่ระบุตัวของผู้กระทำผิดได้ง่ายขึ้น ตลอดจนหยุดยั้งการก่ออาชญากรรม หรือการประท้วงที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำผิดได้
จนกระทั่งช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี พ.ศ. 2564 (ค.ศ. 2020) ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ราว 1 ปี สว. รัฐนอร์ทแคโลไรนา ทั้งฝ่ายเดโมแครตและรีพับลิกันส่วนใหญ่ จึงเริ่มผลักดันแนวทางป้องกันการระบาด เริ่มด้วยการ “แนะนำ” ให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานจะเป็นการ “บังคับ” ให้ประชาชนภายในรัฐ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยในบางสถานที่
อ่านบทความต้นฉบับ :
https://www.nbcnews.com/politics/politics-news/proposed-north-carolina-law-make-illegal-wear-masks-public-rcna152671
https://canons.sog.unc.edu/2024/05/wearing-medical-masks-in-public/
- 182 views