ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม’ เผย 30 บาทรักษาทุกที่ฯ ช่วยประชาชนเข้าถึงบริการได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำ ‘สิทธิบัตรทอง’ รับบริการนอกเวลาราชการได้ไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมเสนอ สปสช. เพิ่มรายการวินิจฉัยโดยอิงจากรายการยาที่สามารถใช้ได้ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษามากกว่า 42 กลุ่มโรค


รศ.พญ.ชวัลญ์ญา รัตนพิทูลย์ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ทางคลินิกฯ เข้าร่วมให้บริการเป็นคลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่นภายใต้โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เฟสที่ 2 ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การช่วยให้ประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เข้าถึงบริการดูแลรักษาเบื้องต้นได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงช่วยลดความแออัด และภาระงานในโรงพยาบาล ทำให้โรงพยาบาลสามารถใช้ศักยภาพและทรัพยากรที่มีไปรักษากรณีที่มีความซับซ้อนได้มากขึ้น

เนื่องจากที่ผ่านมาในพื้นที่ ต.ไชยมงคล มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไชยมงคล (รพ.สต.ไชยมงคล) เป็นหน่วยบริการระดับปฐมภูมิของรัฐเพียงแห่งเดียวในตำบล ซึ่งแม้จะอยู่ใกล้ประชาชนที่สุดหากเทียบกับหน่วยบริการปฐมภูมิของรัฐอื่นๆ แต่ถ้าเทียบระยะทางจากที่อยู่อาศัยของผู้ป่วยบางรายไปที่ รพ.สต. ก็ค่อนข้างไกล อีกทั้ง รพ.สต. เองก็ไม่ได้มีแพทย์มาประจำทุกวัน ทำให้ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งเลือกไปรับบริการที่ โรงพยาบาลปักธงชัย (โรงพยาบาลชุมชน) และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเลย เพราะอยู่ใกล้กว่า และได้เจอแพทย์

นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการรับบริการที่คลินิกนอกเวลาของโรงพยาบาล เนื่องจากไม่สะดวกไปรับบริการที่หน่วยบริการของรัฐในเวลาราชการ เช่น พ่อค้าแม่ค้า หรือ แรงงานนอกระบบประกันสังคม ที่ต้องทำงานในช่วงเช้าถึงเย็น ทำให้ไม่มีเวลาไปรับบริการที่หน่วยบริการของรัฐ ได้เข้าถึงการดูแลรักษาโรคเบื้องต้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย

รศ.พญ.ชวัลญ์ญา กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันจากการให้บริการมากว่า 1 เดือน มีผู้ป่วยสิทธิบัตรทองมารับบริการที่คลินิกฯ มากกว่า 300 คนแล้ว และน่าจะมีอัตราที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะจะช่วงแรกที่มีเพียง 3 – 5 คนต่อวัน ขณะนี้ก็เพิ่มมาเป็น 10 – 20 คนต่อวันแล้ว โดยมีทั้งคนในพื้นที่ และจากพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนคนจากต่างจังหวัด ที่ต้องเดินทางผ่าน จ.นครราชสีมา แล้วมีความจำเป็นต้องรับการดูแลรักษาเบื้องต้น

“แม้ช่วงแรกที่เข้าร่วมจะรู้สึกกังวลว่าเราจะทำได้ไหม เพราะส่วนตัวเราไม่ค่อยถนัดเรื่องไอที แล้วก็ไม่คุ้นชินกับระบบของ สปสช. รวมถึงเป็นหมอแค่คนเดียวในคลินิก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจลุยต่อ ซึ่งพอทำจริงช่วงแรกก็เกิดปัญหาคือคีย์เท่าไหร่ก็ไม่ถูกเบิกไม่ได้ ซึ่งเราก็ไม่ได้เก็บจากคนไข้ และก็ดีที่เขามีทีมหลังบ้านค่อยช่วยตลอด ก็ต้องชื่นชม สปสช. เลยว่าเขาวางแผนไว้ดีมาก จนตอนนี้พอทำได้ไม่ติดขัดตรงไหนแล้วก็ไหลลื่น เงินชดเชย สปสช. เขาก็จ่ายภายใน 3 วัน” รศ.พญ.ชวัลญ์ญา ระบุ

รศ.พญ.ชวัลญ์ญา กล่าวทิ้งท้ายว่า โดยรวมตอนนี้แม้ทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้างดี แต่ก็มีส่วนที่มองว่า สปสช. อาจพัฒนาต่อได้เพื่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ได้แก่ การเพิ่มรายการวินิจฉัยที่คลินิกฯ สามารถให้บริการได้ให้มากขึ้น เพราะขณะนี้มีรายการวินิจฉัยเพียง 42 กลุ่มโรคเท่านั้น ขณะที่รายการยาที่สามารถจ่ายได้มีเยอะกว่ามาก  จึงอยากเสนอให้ สปสช. อาจขยายบริการวินิจฉัยโดยอิงจากรายการยาที่กำหนดไว้ก็ได้ เพื่อให้เกิดความครอบคลุมมากขึ้น

ทั้งนี้ประชาชนสิทธิบัตรทอง 30 บาทในพื้นที่จังหวัดนำร่อง 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวหากมีอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นสามารถเข้ารักษาที่คลินิกเวชกรรมเอกชนที่เข้าร่วมกับ สปสช.ได้ โดยสังเกตจากสติกเกอร์ คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น หรือดูรายชื่อคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมได้ที่ https://www.nhso.go.th/page/Innovative-services-pilot-provinces

โดยคลินิกเอกชนที่สนใจสมัครขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อร่วมดูแลประชาชนตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวสมัครได้ที่ https://ossregister.nhso.go.th/#/public-portal