ร้อง รมว.สธ. เบรกสำนักงบประมาณ หยุดพฤติกรรมรีดค่าหัว ‘บัตรทอง’ โปะเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่

“อนุทิน” ยืนยัน ไม่ว่าจะหั่นงบประมาณบัตรทองอย่างไร ก็ไม่กระทบการให้บริการประชาชน

“กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ” ได้เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2564 เพื่อเรียกร้องให้ “ยุติ” การนำงบประมาณของกองทุนบัตรทองอีกประมาณ 3,000 ล้านบาท ไปจ่ายเป็นเงินเดือนของข้าราชการที่เพิ่งบรรจุใหม่ ซึ่งจะเป็นการเบียดบังเงินสำหรับดูแลประชาชน

นายนิมิตร เทียนอุดม กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เปิดเผยว่า โดยปกติแล้ว งบเหมาจ่ายรายหัวของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ที่สำนักงบประมาณจัดสรรให้ในแต่ละปี จะถูกหักออก 60% ไปเป็นเงินเดือนข้าราชการอยู่แล้ว โดยในปีนี้ กองทุนบัตรทองได้รับการจัดสรรงบประมาณราว 1.98 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินเดือนข้าราชการ 5.5 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นเงินสำหรับดูแลประชาชน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดโควิด-19 ระบาด และ สธ.ได้บรรจุข้าราชการใหม่เพิ่ม และจะมาดึงเงินจากกองทุนบัตรทองอีก 3,000 ล้านบาท ไปจ่ายเป็นเงินเดือนให้ข้าราชการบรรจุใหม่ นั่นหมายความว่าเงินที่ใช้ดูแลประชาชนก็จะหายไป 3,000 ล้านบาท

“เราอยากให้รัฐมนตรีเจรจากับสำนักงบประมาณ เพื่อไม่ให้ตัดงบบัตรทองไปจ่ายเงินเดือนเพิ่ม แต่ควรเป็นหน้าที่ของสำนักงบประมาณที่ต้องหาเงินก้อนอื่นมาจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าว” นายนิมิตร กล่าว

นายอนุทิน กล่าวภายหลังรับจดหมายเปิดผนึก ตอนหนึ่งว่า ขอยืนยันว่า สธ.ไม่มีวันที่จะทำให้ค่ารักษาพยาบาลของพี่น้องประชาชนน้อยลง และไม่ว่าจะมีการตัดงบอย่างไร ก็จะไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการดูแลหลักประกันสุขภาพของประชาชนอย่างแน่นอน

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เรื่องงบประมาณอย่าพิจารณาเฉพาะมิติของงบรายหัวเพียงอย่างเดียว แต่ขอให้ดูมิติการให้บริการด้วย กล่าวคือเราไม่ได้ดูที่เงินค่าหัว แต่ดูที่การรักษาพยาบาลให้หายเร็วและได้รับการรักษาที่ดีที่สุด

“งบจะขาดหรือไม่อย่างไร เป็นหน้าที่รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงจะต้องติดตามหามาให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ได้ ผู้ที่ต้องแบกรับต้นทุนค่ารักษาพยาบาลคือกระทรวงสาธารณสุข เราจะไม่ผลักให้พี่น้องประชาชนรับภาระแน่นอน” นายอนุทิน กล่าว